เนื่องจากช่วงนู๋เขียว
405 GRI น้ำเขาห้องเผาไหม้ ทำให้ต้องเปิดผาสูบและสังเกตว่า
1.อายุการใช้รถไม่ได้ยืนยันว่าเครื่องยนต์สภาพดีเสมอไป…..จากกระทู้ใน Vlovepeugeot.com
ตอนนี้มี 405 GRI / SRI ใช้งานน้อยเกินไป
-
405 GRI ปี 1999 อายุ 13 ปี ใช้งงาน 130,000 โล เฉลี่ยใช้งานต่อปี 10,000
กิโลต่อปี
-
405 SRI ปี 1996 อายุ 16 ปี ใช้งงาน 160,000 โล เฉลี่ยใช้งานต่อปี 10,000
กิโลต่อปี
(
Refer : เรื่องเล่าจากอู่
ตอน ปะเก็นฝาสูบหมดสภาพ
by คุณทอม ( 8ช-XXXX )
รถทั้ง
2 คันมีการใช้งานคล้ายกันคือใช้น้อย…หรือ…..จอดมากกว่าใช้…แทนที่จะดีสำหรับผู้ใช้งาน
กลับตรงข้าม สภาพอุปกรณ์ต่างๆกับเสือมตามกาลเวลา ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา เช่น
-
405 GRI…สภาพที่พบเมื่อเปิดฝาสูบออกมา…..ปะเก็นขาดจนไม่หลงเหลือสภาพเดิม…..ฝาสูบผุมากจนไม่สามาถนำไปปาดให้เรียบแล้วนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ต้องทิ้ง
- 405SRI…จากรูปแน่นอนปะเก็นเสือมสภาพไม่รุนแรงเท่า 405 GRI และฝาสูบผุแต่ไม่รุนแรงเนื่องจากฝาสูบ SRI เป็นเหล็กหล่อ
- 405SRI…จากรูปแน่นอนปะเก็นเสือมสภาพไม่รุนแรงเท่า 405 GRI และฝาสูบผุแต่ไม่รุนแรงเนื่องจากฝาสูบ SRI เป็นเหล็กหล่อ
2.ความแข็งแรงของเสื้อสูบ เมื่อดูแล้วเปลี่ยบเทียบเห็นว่า
เสื้อสูบ 405 SRI
มีความแข็งแรงกว่า 405 GR/GRI ( รวมไปถึง MI16
ด้วยหรือเปล่าไม่รู้ )
- วัสดุ ของ 405 SRI ผลิตจาก เหล็กหล่อ แต่ 405
GR/GRI ผลิตจาก อลูมิเนียมอลอย เสื้อสูบของ 405 GR/GRI อาจจะแข็งแรงน้อยกว่า แต่ก็เบากว่าด้วย
ทำให้ไม่เป็นภาระมากกับช่วงล่างและประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า
- การออกแบบ ของ405 SRI มีโครงสร้างกระดูก หรือ
เอ็นยึดระหว่างกระบอกลูกสูบกับตัวเครื่อง แต่ ของ 405 GR/GRI ไม่มี ถึงอย่างนั้นก็ดี ก็แข็งแรงเพียงพอต่อการใช้งานเพียงต่ผู้ใช้บางท่านขาดการดูแลรักษาระบบระบายความร้อนจนมีผลให้เสื้อสูบแตกร้าวก็มีให้เห็นบ่อย
ๆ
จากทั้งหมด
เสื้อสูบทั้ง 2 แบบก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ครับ
เสื้อสูบ GR / GRI
เสื้อสูบ GR / GRI
เสื้อสูบ SRI
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น