วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

DIY 2N Engine ของ Toyota micty X

ผมได้อ่านแล้วประทับใจ...และเป็นเรื่องที่ผมสนใจอยู่ ( การโอเวอฮอร์เครื่องยนต์ด้วยตนเอง ) ถึงจะไม่ใช่เครื่อง Peugeot ก็ตาม

แบ่งออกเป็น  4 ภาค

ภาคที่ 1

http://www.weekendhobby.com/offroad/webboard/question.asp?page=1&id=4968

ภาคที่ 2

http://www.weekendhobby.com/offroad/webboard/question.asp?page=1&id=5024

ภาคที่ 3

http://www.weekendhobby.com/offroad/webboard/question.asp?page=1&id=5092

ภาคที่ 4

http://www.weekendhobby.com/offroad/webboard/question.asp?page=1&id=5268

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สายน้ำมันเชื้อเพลิงในห้องเครื่อง 405

สายน้ำมันเชื้อเพลิงในห้องเครื่อง เมื่อใช้งานมานาน และ มีการเปลี่ยนแปลง น้ำมันเชื้อเพลิง มักจะพบปัญหาบ่อยคือ สายชำรุด

 



วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เสื้อสูบ 405 GR / GRI / SRI


เนื่องจากช่วงนู๋เขียว 405 GRI น้ำเขาห้องเผาไหม้ ทำให้ต้องเปิดผาสูบและสังเกตว่า

1.อายุการใช้รถไม่ได้ยืนยันว่าเครื่องยนต์สภาพดีเสมอไป…..จากกระทู้ใน Vlovepeugeot.com ตอนนี้มี 405 GRI / SRI ใช้งานน้อยเกินไป
- 405 GRI ปี 1999 อายุ 13 ปี ใช้งงาน 130,000 โล เฉลี่ยใช้งานต่อปี 10,000 กิโลต่อปี
- 405 SRI ปี 1996 อายุ 16 ปี ใช้งงาน 160,000 โล เฉลี่ยใช้งานต่อปี 10,000 กิโลต่อปี
( Refer : เรื่องเล่าจากอู่ ตอน ปะเก็นฝาสูบหมดสภาพ by คุณทอม ( 8-XXXX )
รถทั้ง 2 คันมีการใช้งานคล้ายกันคือใช้น้อยหรือ…..จอดมากกว่าใช้แทนที่จะดีสำหรับผู้ใช้งาน กลับตรงข้าม สภาพอุปกรณ์ต่างๆกับเสือมตามกาลเวลา ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา เช่น
- 405 GRI…สภาพที่พบเมื่อเปิดฝาสูบออกมา…..ปะเก็นขาดจนไม่หลงเหลือสภาพเดิม…..ฝาสูบผุมากจนไม่สามาถนำไปปาดให้เรียบแล้วนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ต้องทิ้ง
 - 405SRI…จากรูปแน่นอนปะเก็นเสือมสภาพไม่รุนแรงเท่า 405 GRI และฝาสูบผุแต่ไม่รุนแรงเนื่องจากฝาสูบ SRI เป็นเหล็กหล่อ


2.ความแข็งแรงของเสื้อสูบ เมื่อดูแล้วเปลี่ยบเทียบเห็นว่า เสื้อสูบ 405 SRI มีความแข็งแรงกว่า 405 GR/GRI ( รวมไปถึง MI16 ด้วยหรือเปล่าไม่รู้ )
- วัสดุ ของ 405 SRI ผลิตจาก เหล็กหล่อ แต่ 405 GR/GRI ผลิตจาก อลูมิเนียมอลอย เสื้อสูบของ 405 GR/GRI อาจจะแข็งแรงน้อยกว่า แต่ก็เบากว่าด้วย ทำให้ไม่เป็นภาระมากกับช่วงล่างและประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า
- การออกแบบ ของ405 SRI มีโครงสร้างกระดูก หรือ เอ็นยึดระหว่างกระบอกลูกสูบกับตัวเครื่อง แต่ ของ 405 GR/GRI ไม่มี ถึงอย่างนั้นก็ดี ก็แข็งแรงเพียงพอต่อการใช้งานเพียงต่ผู้ใช้บางท่านขาดการดูแลรักษาระบบระบายความร้อนจนมีผลให้เสื้อสูบแตกร้าวก็มีให้เห็นบ่อย ๆ

จากทั้งหมด เสื้อสูบทั้ง 2 แบบก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ครับ
เสื้อสูบ GR / GRI
เสื้อสูบ GR / GRI
เสื้อสูบ SRI

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

บุกันความร้อนฝากระโปรง


ทำไม 405 GRI ถึงไม่มี แผ่นบุกันความร้อนใต้ฝากระโปรงมาให้ก็ไม่รู้…..เหนื่อยอีกแล้วเรา….เริ่มจากหาวัสดุทดแทนก่อน  เหมาะสุดก็น่าจะเป็น แผ่นกันความร้อนบุหลังคามาเริ่มกันเลยครับ
 
อุปกรณ์ที่ใช้
 1.      แผ่นบุกันความร้อน 5-10 มม ประมาณ  : ตอนที่ทำให้ SRI ผมเลือกใช้ 5 มม แต่ทำ 2 ชั้น แต่ครั้งนี้ผมเลือกซื้อ10 มม.ทำชั้นเดียวแต่ครั้งนี้ต้องซื้อยกม้วนหล่ะครับครั้งที่แล้วมีแบ่งขาย


2.      กาวยาง Dunlop :เลือกกาวดีหน่อยครับเพราะต้องอยู่กับความร้อนตลอด
3.      อุปกรณ์ อื่น มีดคัทเตอร์ ไม้บรรทัด เหล็กสำหรับปาดกาว

ขั้นตอน
1 ตัดแผ่นบุความร้อนตามแบบด้านล่าง


2.ทำความสะอาดฝากระโปรงด้วยน้ำผงซักฟอกให้สะอาดไม่ให้มีคราบมันหลงเหลืออยู่แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
3.ทากาวยางที่ฝากระโปรง และ แผ่นบุกันความร้อน ทิ้งไว้สักพักเอานิ้วแตะๆกาว ถ้ากาวไม่ติดมือขึ้นมาแสดงว่ากาวพร้อมที่จะให้ประกอบแล้ว
4.ประกอบแผ่นบุความกันความร้อนแล้วใช้ขวดกลม ๆ รีดแผ่นบุความร้อนให้สนิทกับฝากระโปรง


วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เปลี่ยนยางลองเบ้าโช๊คโดยไม่ต้องถอดคุมล้อ และโช็ค

ผมขออนุญาติลอกบทความของ audi2551 เพราะว่ามีประโยชน์แกคนใช้รถทุกท่าน

วันนี้ผมมานำเสนอวิธีการเปลี่ยนยางเบ้าหัวโช๊คของเจ้า Audi A80 ซึ่งรถรุ่นอื่นๆ ก็ใช้วิธีการคล้ายๆกัน

วิธีการนี้ ไม่ต้องถอดโช๊คลงมาครับ ไม่ต้องถอดคันชักคันส่ง

ง่ายๆ แค่ข้างละ 20-30 นาที ครับ

เครื่องมือที่ต้องมี

1. ประแจเบอร์ 22
2. ที่บีบสปริง (คู่ละ 750 บาท ซื้อได้ืั้ที่วรจักร)
3. ไขควงปากแบน แบบด้านท้ายเป็นเหล็ก (เอาไว้ตอก)
4. แม่แรงยกรถ
5. ยางหัวโช๊ค P/N 8A0 412 323 D ราคาอันละ 580 บาท
6. ค้อนเล็กๆ

ทำตามนี้เลยครับ (ทำแล้วไม่จำเป็นต้องตั้งศูนย์ใหม่)







วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วิธีทดสอบ FPR (Fuel Pressure Regulator) เบื้องต้น

ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ Start รถติดยาก เพราะแรงดันน้ำมันตกไป เนื่องจาก

1. Fuel Pump ใกล้เสีย ซึ่งราคาของ Fuel Pump (หรือที่เรียกว่า ปั๊มติ๊ก)

2. FPR (Fuel Pressure Regualtor) เริ่มแสดงอาการไม่ดี

การตรวจสอบเบื้องต้น

- ดึงสาย แวคคั่ม ที่ต่อมาจาก FPR ไปยัง ท่ออากาศก่อนเข้าไอดี

- บิด Switch กุญแจไปที่ ON แต่ไม่ต้อง Start เครื่องเพื่อให้ปั๊มติกทำงานป้อนน้ำมันไหลเข้าสู่ระบบ

- ถ้ามีน้ำมันไหล หรือซึม ออกจาก FPR แสดงว่า FPR หมดสภาพการใช้งานแล้วครับ

Ignition Coil Tester by Audi Web

รายการอุปกรณ์

ท่อ PVC 3/8 ยาวเท่าปลายเกลียวหัวเทียน.....ฟรี
ท่อ PVC 1/2 ยาวเท่าที่เห็นในรูป....ฟรี
ฝาปิดท่อ PVC 1/2.......อันละ 5 บาท
น็อตเกลียวปล่อยยาว 3 นิ้ว.....ซื้อน้อยโดนอันละ 2.50 บาท
ปากคีบ......2 อันรวม 15 บาท
สายไฟ 3 mm......ฟรี
หัวเทียนของเก่าใช้แล้ว



Concept.

การเทสก็ให้หมุนสกรูห่างออกมา 1 เซ็นต์...แล้วเทสดูว่าไฟวิ่งสะดวกดีหรือไม่ แล้วผมก็คลายออกมาห่าง 2 เซ็นต์...เสียงไฟกระโดดดังแป้บๆๆๆๆ ได้ใจเลย

ยิ่งไฟสามารถวิ่งกระโดดได้ไกล แสดงว่าคอลย์เรายังดีอยู่ จ่ายไฟได้แรงดีๆๆๆ ในรถยนต์ผมห่างประมาณ 5 เซ็นต์ เพราะใช้คอลย์แรงสูงราวๆๆ 60,000 โวล์ท...



วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การตรวจสอบไดชาร์จเบื้องต้น



ขั้นตอนการทดสอบแรงดันไฟฟ้า (V)


- ต่อ Ammeter และ Voltmeter ดังรูปข้างบน
- สตาร์ทเครื่องยนต์และเร่งเครื่องไปที่ 2500 รอบต่อนาที
- ทำการเปิด-ปิดไฟหน้ารถยนต์ ทำการอ่านค่า Volt ควรจะได้ 13.8 ถึง 14.5 V
- ถ้าได้ต่ำกว่า 13.8 ถึง 14.5 V สันนิษฐานได้ว่าน่าจะมีไฟรั่วลงกราวด์

ขั้นตอนการทดสอบกระแสไฟฟ้า (A)

- อ่าน Spec. ของ Alternator เช่น 14V 17/85A หมายความว่า ที่รอบเครื่องยนต์ 2500 รอบต่อนาที กระแสควรจะได้ 85 A
- ต่อ Ammeter และ Voltmeter ดังรูปข้างบน
- สตาร์ทเครื่องยนต์และเร่งเครื่องไปที่ 2500 รอบต่อนาที
- ทำการเปิด-ปิดไฟหน้ารถยนต์ ทำการอ่านค่า A ควรจะได้ใกล้เคียงกับค่าที่อ่านได้จาก Spec. ของ Alternator

การทดสอบเกียร์ออโต้เบื้องต้นสำหรับรถมือสอง

ขั้นตอนการทดสอบเบื้องต้น

- ตรวจสอบน้ำหม้อน้ำต้องอยู่ในระดับปกติระหว่าง MAX-MIN
- ตรวจสอบการทำงานของพัดลมระบายความร้อนว่าทำงานปกติหรือไม่ โดยการลองเปิดแอร์ดูว่าพัดลมหน้าเครื่องทำงานหรือไม่
- เข้าเกียร์ N
- สตาร์ทเครื่องยนต์และรอจนกว่าจะได้อุณหภูมิเครื่องประมาณ 80-90 องศา โดยไม่ต้องเปิดแอร์ (พอเครื่องร้อนพัดลมหน้าเครื่องจะทำงานอัตโนมัติ)
- เข้าเกียร์ P
- ตรวจวัดระดับน้ำมันเกียร์ควรจะอยู่ระหว่าง MAX-MIN ถ้าต่ำกว่า MIN ให้เติมเพิ่ม แต่ถ้ามากกว่า MAX ไม่เป็นไรครับ
- เหยียบเบรคไว้ระหว่างทดสอบ
- เข้าเกียร์มาที่ R, D, 3, 2, 1 ในแต่ละเกียร์ ควรจะรู้สึกได้ถึงการเข้าของเกียร์ภายใน 1 วินาที ถ้านานกว่านี้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
- ทดลองขับโดยเข้าเกียร์ D การออกตัวควรจะออกตัวแบบทันทีภายใน 1 วินาที ถ้านานกว่านี้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
- ทดลองขับโดยเข้าเกียร์ R การออกตัวควรจะออกตัวแบบทันทีภายใน 1 วินาที ถ้านานกว่านี้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
- ทดลองขับโดยเข้าเกียร์ 3 การออกตัวควรจะออกตัวแบบทันทีภายใน 1 วินาที ถ้านานกว่านี้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
- ทดลองขับโดยเข้าเกียร์ 2 การออกตัวควรจะออกตัวแบบทันทีภายใน 1 วินาที ถ้านานกว่านี้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
- ทดลองขับโดยเข้าเกียร์ 1 การออกตัวควรจะออกตัวแบบทันทีภายใน 1 วินาที ถ้านานกว่านี้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ
- ในระหว่างทดลองขับการเปลี่ยนเกียร์แต่ละจังหวะ ไม่ควรกระตุกมากจนรู้สึกว่ากระชาก ถ้ามีอาการนี้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อาการผิดปกติเบื้องต้นของเกียร์อาจจะมาจากหลายสาเหตุเช่น

- น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ
- มีสิ่งสกปรกในระบบน้ำมันเกียร์ ทำให้การเปิด-ปิดของ Solenoid Valve ไม่สะดวกเท่าที่ควร
- ระบบไฟฟ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นเช่น สายไฟหลวม ขาด เป็นต้น
- แผ่นคลัทช์ใกล้หมด ทำให้ต้องเหยีบคันเร่งมาก รถถึงจะออกตัว
- มีความผิดปกติในระบบเกียร์ในส่วนของเฟืองขับต่างๆ
- Valve Body ทำงานผิดปกติ
- TPS ทำงานผิดปกติ

ซึ่ง อาการต่างๆเหล่านี้จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยช่างผู้ชำนาญ และส่วนใหญ่จำเป็นที่จะต้อง Overhaul เกียร์ โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 12000 - 50000 บาทแล้วแต่อาการ และ รุ่นของเกียร์ หรือใช้เกียร์มือสอง

เมื่อเกิดอาการผิดปกติเหล่านั้นช่างจะทำอย่างไร

- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์
- ล้าง Valve Body ราคา 1000-1500 บาท แล้วแต่อู่และความชำนาญ
- Overhaul เกียร์

ช่างทำอะไรในการล้าง Valve Body

- ล้างทำความสะอาดช่องทางเดินของน้ำมันเกียร์
- ตรวจสอบอุปกรณ์ภายใน เช่น Seal และ Solenoid Valve ถ้า Solenoid Valve ทำงานผิดปก ของใหม่ราคาประมาณตัวละพันกว่าบาท
- ตรวจสอบสายแพร ว่าขาด ลัดวงจรหรือไม่
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ หรือ อาจะเปลี่ยน Seal อ่างน้ำมันเกียร์ แต่โดยปกติ ช่างจะใช้ Silicone สีดำๆ ทาให้ ไม่ต้องซื้อ Seal อ่างน้ำมันเกียร์ใหม่

ช่างทำอะไรในการ Overhaul เกียร์
- เปลี่ยนแผ่นคลัทช์
- ผ่า Torque Converter เพื่อเปลี่ยนแผ่นคลัทช์
- เปลี่ยนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ชำรุด ตามสภาพการใช้งาน แล้วแต่ว่าตัวไหนเสีย
- เปลี่ยนน้ำมันเกียร์
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์
- อื่นๆ

หลังจาก Overhaul เกียร์ แล้วเป็นอย่างไร

- ส่วนใหญ่จะดีขึ้นและสามารถใช้งานไปได้อีก 3-5 ปี
- อาการกระตุกแรงๆ จะลดลง แต่อาจจะไม่หายขาด เนื่องมาจากการ Overhaul เกียร์ ไม่ได้เปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทุกชิ้นโดยเฉพาะเฟืองขับต่างๆ
- ปกติหลังจากทำการ Overhaul เกียร์ ช่างจะรับประกันผลงาน 1 ปี แต่ส่วนใหญ่ถ้ารถมีปัญหาหลังการซ่อม ช่างจะบ่ายเบี่ยงที่จะแก้ไขด้วยเหตุผลสารพัดเว้นแต่โชคดีที่เจออู่ดีๆ

ถ้าไม่ Overhaul เกียร์ ได้ไหม

- ใช้เกียร์มือสอง ราคาประมาณ 15000 บาท และส่วนใหญ่จะสภาพค่อนข้างดี สามารถใช้งานได้นานพอสมควร และ ที่สำคัญจะได้มีอะไหล่สำรองไว้ใช้ยามจำเป็นจากเกียร์ลูกเก่า

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วีธีตรวจสอบว่าฝาสูบโก่งหรือปะเก็นฝาสูบแตก

วีธีตรวจสอบด้วยตัวเอง เบื้องต้น:

1.เปิดฝาหม้อน้ำและดูว่ามีคราบน้ำมันปนเปื้อนอยู่กับน้ำในหม้อน้ำหรือไม่?

2.ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง และดูว่ามีน้ำปนเปื้อนกับน้ำมันเครื่องหรือไม่?

3.เปิดฝาหม้อน้ำไว้ แล้วสตาร์ตรถ และดูว่า ในจังหวะสตาร์ตรถ น้ำในหม้อน้ำกระฉอกขึ้นมาหรือไม่?

-ถ้าตรวจสอบทั้ง 3 ข้อแล้วปรากฎว่าคำตอบเป็น ใช่ ทั้งหมด ก็สันนิฐานเบื้องต้นได้ว่าฝาสูบน่าจะโก่งหรือประเก็นฝาสูบแตก ให้ช่างตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
-ถ้าตรวจสอบทั้ง 3 ข้อแล้วปรากฎว่าคำตอบเป็น ไม่ใช่ ก็สันนิษฐานได้ว่าฝาสูบไม่น่าจะโก่งหรือประเก็นฝาสูบไม่น่าจะแตก

หมายเหตุ

1.ฝาสูบโดยส่วนใหญ่จะไม่โก่งกันง่ายๆ

2.ฝาสูบจะโก่งก็ต่อเมื่อรถเกิดความร้อนขึ้นสูงเป็นเวลานานๆ จนเครื่องดับไปเองหรือเติมน้ำลงในหม้อน้ำขณะที่เครื่องยังเย็นตัวไม่พอ

ปล.

1.เรื่อง ความร้อนที่ผิดปกติเนี่ย อาการพื้นฐานจะคล้ายๆกัน แต่ถ้าไล่ check อาการโดยละเอียดแล้วจะพบว่า อาการนั้นๆเกิดจากอุปกรณ์ตัวใด โดยไม่ต้องสุ่มเปลี่ยนอุปกรณ์ไป
2.เรื่องการเปลี่ยนฝาสูบ อยากให้จัดไว้ท้ายสุด ให้ check จนแน่ใจจิงๆว่า เป็นที่ฝาสูบ แล้วจึงค่อยเปลี่ยน
3.ถ้าต้องเปลี่ยนฝาสูบแน่ๆ แนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นของมือสองหรือปาดฝาสูบเดิม

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

ซ่อมแร็คพวงมาลัย 405 SRI

สุดท้ายก็ถึงคิว ซ่อมแร็คพวงมาลัย หลังจากซื้อมาได้ปีกว่าแล้ว.....สิ่งแรกที่ทำคือรื้อทำความสะอาดทุกชิ้นส่วน ดูว่ามีอะไรเสียหายบ้าง


แต่ตอนนี้ยังมืดอยู่....รอความคิดเห็นเพื่อส่งกลึงครับ....ถ้าแบ่งการซ่อมอุปกรณ์ย่อย ก็ตามรูปเลยครับ

ชุดวาวล์สลับทิศทาง

วาวล์ชุดนี้ต้องส่งโรงกลึงเพื่อ แปลงให้สามารถ ถอดเปลี่ยน Oil Seal ได้ง่ายขึ้น

ชุดกระบอกแร็คช่วยผ่อนแรง



ลำตัวของชุดแร็ค

โชคดีมาก ๆ เสื้อแร็ค ทั้งสองตัวสภาพดีมาก ชุดขวามือเป็นของดังเดิมสภพดี ชุดซ้ายมือ ผ่านการซ่อมมาแล้วมีบรูชทองเหลืองยาวประมาณ 2 นิ้ว.....คงไม่ต้องทำอะไร

ชุดลูกกอฟล์ เกียร์

ซื้อบรูช มาเก็บตั้งนาน...พึ่งมารู้ว่าใช้กับเจ้านี้

ต้องตามหา ยางกันฝุ่น กับยางกันกระแทกอีกครับ

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

อะไหล่ชุดซ่อมคอมแอร์ Sanden 507 ก็มีขาย

ผมพึ่งรู้ว่าอะไหล่ชุดซ่อมคอมแอร์ ก็มีขายด้วย

- Sanden 507 แกนใหญ่
- คลัทซ์แม่เหล็กบิ้ว 12V Sanden รุ่น508แกนเล็ก,507แกนใหญ่ ราคา 250 บาท
- ลูกปืน NSK # 40BD219 รุ่น507แกนใหญ่,# 10p,6p,508 ราคา 100.บาท
- ชุดซีล 507 แกนใหญ่ ราคา 100. บาท
- ประเก็น ราคา 50 บาท




วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

เพลาขับ 405 SRI

สภาพชุดเพลาขับของอ.จำรูญที่ได้มาก่อนถอดล้างครับ

อุปกรณ์ถอด ประกอบหัวเพลาครับมีเท่านี้จริง ๆ

อุปกรณ์ถอดยางหุ้มเพลาก็ไม่มีอะไรมาก คีม กะ ไขควง ก็สามารถถอกออกได้แล้วครับ

การถอดหัวเพลา ใช้ค้อนเหล็กหนัก ๆ ตีที่ขอบหัวเพลาเลยครับ จังหวะเหมาะไม่เกิน 2 ที่ก็หลุดแล้วครับ

การถอดหัวเพลาแนะนำให้ถอดหัวเพลาตัวนอกก่อน แล้วจึงถอดตัวใน เพราะว่าหัวเพลาตัวนอกถอดค่อนข้างยากกว่า เวลาตีหัวเพลาจารบีจะได้ไม่กระเด็นจนเปลื้อน


ถ้าสังเกตุให้ดีที่ปลายเพลาขับ จะมีแหวนล็อคอยู่ทำหน้าที่ป้องกันหัวเพลาหลุดจากเพลา....หัวเพลาหลุดที่อันตรายมาก ๆ และ รถไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยครับ.....ซ่อมเพลาทุกครั้งอย่าลืมตรวจจุดนั้ด้วยครับ


เมื่อแยกชิ้นส่วนเพลาขับแล้ว ก่อนล้างทำความสะอาด ให้เช็ดจารบีด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อความประหยัดน้ำมัน....และ...รักษ์โลกครับ


การถอดประกอบลูกปืนหัวเพลา ก็ง่ายกว่าที่ผมคิด เครื่องมือไม่มีอะไรนอกจากน้ำมันเครื่องลื่น ๆ เท่านั้นเอง

แยกอุปกรณทั้งหมดร่วมถึงลูกปืนในหัวเพลานอกด้วยแล้วก็
ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนตรวจสอบว่ามีอะไรเสียหายบ้าง

ตรวจสอบหัวเพลาใน


หัวเพลาในของ อ. จำรูญ มีรอยสึกมากจนสังเกตุได้ ทั้งด้วยสายตาและ ใช้นิ้วลูบ และ นี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เพลาสั่นหล่ะครับ



ส่วนหัวเพลาในของผม....ไม่แน่ใจวว่ายังสามารถใช้งานได้หรือเปล่า....แต่หลังสุดที่ถอดออกไม่มีอาการสั่นแต่มีปัญหาเรื่องหัวเพลามีเสียงดัง

ลูกปืนหัวเพลาใน

ลูกปืนชุดนี้ของเพลาขับที่ผมใช้งานมาแล้ว 5 ปีซื้อมาจาก ร้านอะไหล่ เป็นเพลาขับเทียบ อะไหล่ลูกปืนไม่มีเปลี่ยน.....เมื่อวัดขนาดดู เหลือเพียง 32.1 มม

ลูกปืนชุดนี้ของเพลาขับที่ผมอีกชุดหนึ่งเคยใช้งานมาตั้งแต่ใช้รถมาเลย วัดขนาดแล้ว ได้ 33.0 มม ถ้าเทียบกับอะไหล่เทียบของแท้มีความคงทนกว่ามากมายเลยครับ

แต่จากที่ผมสังเกตุผมไม่พบปัญหาลูกปืนเข็มแตกหัก ยังใช้งานได้ปกติ

หัวเพลานอก

หัวเพลาด้านขวาของผมกํบอ.จำรูญสภาพเหมือนกันเลยครับ คือ แย่พอ ๆ กัน คือสึกหรอค่อนข้างเยอะมาก ความคิดเห็นไม่น่าจะสามารถใช้งานได้แล้วนะครับ.....ถ้าประกอบกลับเข้าไปคงมีเสียงดังแน่ ๆ เลยนะครับ

หัวเพลาชุดนี้เป็นด้านซ้ายของผมดูแล้วสภาพพอดูได้แต่ยังไม่รู้ผลว่าถ้านำไปประกอบจะสามารถใช้งานแล้วจะมีเสียงดังหรือเปล่า....ต้องลองดูครับ

หัวเพลาชุดนี้เป็นด้านซ้ายของ อ.จำรูญ ดูแล้วสภาพดีมากเลยครับคิดว่าสามารถใช้งานได้อีกนานเลยครับ

เนื่องจากยังไม่มีโครงการนำไปใช้งาน....ทาน้ำมันแล้วห่อไวก่อนครับพร้อมใช้งานแล้วค่อยซื้อยางหุ้มเพลามาใส่แล้วค่อยส่งให้ช่างประกอบครับ

การดูแลรักษาเพลาขับ

1.ดูแลเรื่องยางหุ้มเพลาขับ....จารบีหล่อลื่น....หลีกเหลี่ยงอะไหล่เทียบเพราะจะได้ยางหุ้มเพลากับจารบีคุณภาพต่ำทำให้ลูกปืนและหัวเพลาสึกหรอเร็ว อายุงานสั้นกว่าปกติ
2.หลีกเหลียงการขับขี่ถนนไม่ดีที่ความเร็วสูงและเลี้ยวรถด้วยความรุนแรง
3. การสึกหรอของเพลาขับด้านซ้ายน้อยกว่าด้านขวาควร สลับหัวเพลานอก และ ลูกปืนหัวเพลาใน ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางหุ้มเพลาขับ