วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ถอดประกอบคานหลัง SRI

Introduction: การตั้งคานหลัง

1. วัดความสูงคานหลังเดิมเพื่อ
- ทราบระยะจริงและต้องการปรับเพิ่ม
- ตรวจสอบความต่างด้านซ้าย และด้านขวาไม่ควรต่างกันเกิน 10 mm

2. สำรวจรอย Mark ที่ Torsion Bar ทั้ง 2 เส้น รวมไปถึง เหล็กกันโครง ( Anti roll bar ) แต่ถ้าไม่พบ รอย Mark ให้ ใช้ Phuncing mark หรือ อะไรก็ได้ ตอก เพื่อใช้สังเกตและตรวจสอบความถูกต้องของการประกอบ

3. เราสามารถปรับความสูงของรถตามความต้องการ โดยการ ปรับ เฟือง Splines 1 เฟือง จะทำให้ความสูงเปลี่ยน 3 mm ในการปรับเปลี่ยนการประกอบของ เฟือง Splines ควรใช้อุปกรณ์ช่วย Dummy Shock absorber ( จากรูปคิดว่าจะใช้ตัวเร่งในงานเชื่อมโครงสร้างเหล็กมา Modify เอาละครับ )

การปรับคานหลัง ขึ้นหรือลง ให้สังเกตุการเปลี่ยนตำแหน่ง mark ตามรูปด้านล่างครับ

4.เครื่องมือที่ใช้ในการถอดประกอบคานหลัง
- 0316 A : Slide Hammer Puller
- 0908 Q : Adapter
- 0908 V : Dummy Shock absorber
- 0911 : Suspension compression tool

5.
-
ถอดเหล็กกันโครงออกเป็นอันดับแรก แล้วใช้ Jack ยกรถขึ้น
-
ถอดโช็คหลังออกแล้วใส่ตัว Dummy Shock Absorber แทน ( จากที่อ่านระยะมาตรฐานของ Dummy Shock Absorber อยู่ที่ 328 มม ) แล้วคลายยืดออก 1/2 รอบเพื่อให้ถอด ทอร์ชั้นบาร์ได้ง่าย

6.ถอดน็อตยึด Break Bracket , ปลดสายเบรคมือ และ ปะกับ หัวทอร์ชั้นบาร์ แล้วถอด ทอร์ชั้นบาร์ ออก ( การถอดอะหลั่ยทุกชิ้นอย่าลืมทำมาร์คด้วยนะครับ )

7.
- ก่อนถอด Dummy Shock Absorber ออกมาเพื่อตั้งระยะใหม่ให้หาท่อนไม้หนุน คุมล้อก่อน ( จะได้ง่ายต่อการปรับระยะและใส่ Dummy Shock Absorber หลังปรับความยาวแล้ว
-
ตั้งระยะความสูงของคานหลังใหม่ 1 เฟือง Spline เท่ากับ 3 มม. ( จากคู่มือ ตัว Dummy Shock Absorber เกลียวมีระยะพิต 1.5 mm ถ้าต้องการยกขึ้น 15 มม จะต้องยึด Dummy Shock Absorber ออก 7.5 มมหรือหมุนเกลียว 5 รอบ )
-
หลังจากปรับความยาวของ Dummy Shock Absorber แล้ว ให้ประกอบเข้ากลับหูยึดโช็คเหมือนเดิม


8.
-
ทำความสะอาด ร่องเฟือง Spline ทั้งที่ ทอร์ชั้นบาร์ และที่ปีกนกหลัง ถ้าพบรอยเยินหรือสนิม ก็ขัดออกด้วยกระดาษทราย หรือใช้ตะไบสามเหลี่ยมตะไบรอยเยินออก หลังจากนั้น ทาด้วยจารบี ESSO NORVA 275 ( ส่วนตัวคงใช้จารบีของ PPT ที่มีเนื้อสีน้ำเงินนะครับ )
-
ขอควรระวังทอร์ชั้นบาร์
+
ด้านซ้าย มีแถบสีสองแถบ
+
ด้านขวา มีแถบสีหนึ่งแถบ
+
เฟือง Spline ด้านหนึ่ง 30 ฟันซึ่งจะมีความโตเล็กกว่า อีกด้านหนึ่งซึ่งมีเฟือง 32 ฟัน
ระวังประกอบผิดด้านนะครับ ให้สังเกตุ แถบสีที่ Mark บน ทอร์ชั้นบาร์ครับ

9.การประกอบทอร์ชั้นบาร์
-
สามารถสอดผ่านด้านเล็ก หรือ ด้านที่มีเฟือง 30 ฟัน ผ่าน รูของเฟือง 32 ฟันได้เลย
-
ขณะจะประกอบเฟืองเข้าด้วยกันนั้นให้สังเกตุ Mark เดิมให้ดี ถ้าเป็นการเพิ่มหรือลดความสูงจำนวนเฟืองที่เปลี่ยนไปต้องเท่ากัน
-
การปรับ Dummy Shock Absorber เพื่อหาตำแหน่งเฟืองสามารถทำได้ แต่ Dummy Shock Absorber ทั้ง 2 ด้านต้องต่างกันไม่เกิน 10 มม
-
ตอก ทอร์ชั้นบาร์ กลับเข้า ปีกนกหลังและประกอบ น็อ๖และประกับเข้าต่ำแหน่งเดิม

10 การประกอบสว่นต่างของคานหลังตามลำดับ
-
หลังจากประกอบทอร์ชั้นบาร์เรียบร้อยแล้ว ใหประกอบชุดเบรค
-
ถอด Dummy Shock Absorber แล้วใส่ Shock Absorber แทน
-
ประกอบ เหล็กกันโคลง
-
ประกอบ ล้อ

11
หลังจากงานประกอบเรียบร้อยแล้วให้เอารถลงจากแม่แรงแล้วตรวจสอบความสูงตามข้อ ( 1 )อีกครั้งหนึ่ง


ข้อมูล เพิ่มเติมครับเมื่่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นำ 405 GRI ไปเปลี่ยน Torsion Bar เป็นของ MI16สาเหตุที่เปลี่ยนเพราะว่า Torsion Bar เดิมล้าตัวแล้ว....ความสูงรถเดิมก่อนเปลี่ยน ประมาณ 63~64 CM ผมคิดว่ากำลังดี(  ด้านหน้าผมใส่สปริงโหลดไว้ครับ )แต่ว่าเมื่อรถวิ่งผ่านเนิน หรือลงสะพาน ด้านท้ายมีอาการยุบตัวมากไปนิดหนึ่งนะครับ....เลยพยายามหา Torsion Bar ของ MI16 มาใส่ มีผลของระยะตั้งปีกนกหลัง (Dummy Shock Absorber )ดังนี้ครับ
X = 295 มม ความสูงจากพื้นถึงขอบซุ้มล้อ ด้านซ้าย 67.5 CM ด้านขวา 68 CM.........เป็นระยะเดิมของรถ เมื่อถอด Torsion เดิมออกครับ แล้วใส่ Torsion Bar MI16 เลย
X = 290 มม ความสูงจากพื้นถึงขอบซุ้มล้อ ด้านซ้าย 67.5 CM ด้านขวา 68 CM.........ไม่มีผลต่อความสูงครับ
X = 283 มม. ความสูงจากพื้นถึงขอบซุ้มล้อ ด้านซ้าย 63 CM ด้านขวา 63.5 CM.........เป็นความสูงที่ต้องการครับ
เงืื่อนไขสัมภาระในรถ......ถังโดนัท มีแก๊สประมาณครึ่งถัง และ ยางอะไหล่ 1 เส้น
แต่สำหรับรถที่ใช้ Torsion Bar เดิมแล้วต้องการปรับความสูง อาจจะต้องตั้ง
X = 315 มม ครับ
ให้เป็นข้อมูลครับ.......